วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561

9 เทคนิคลัดช่วยลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ให้ถูกลง                                                                                     
ช่วงนี้ตลาดรถยนต์บ้านเรายังคงคึกคัก หลายคนเตรียมตัวถอยรถใหม่กันเป็นแถว เห็นแล้วอิจฉาจริงๆ อยากจะถอยรถใหม่ป้ายแดงกับเขาบ้างเหมือนกัน แต่ติดที่เรื่องประกันรถยนต์นี่แหละ เพราะรถใหม่ก็ต้องคู่กับประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งเบี้ยประกันก็คงจะโหดใช่เล่น ถ้าต้องควักเงินจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ราคาแพงๆ ก็คงเหงื่อตกเหมือนกัน
เชื่อว่าใครๆ ก็อยากได้เบี้ยประกันรถยนต์ราคาถูกและดี รู้หรือเปล่า? จริงๆ แล้วเราสามารถลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ด้วย วันนี้เราจึงเอาเทคนิคที่สามารถช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ให้ถูกลงมาแนะนำทุกคนกัน
ถ้าคุณเป็นคนที่มีพฤติกรรมการขับขี่ดีตลอดทั้งปี ไม่ขับรถแบบเสี่ยงๆ ปาดซ้าย แซงขวา ไม่เคยมีการเคลมค่าเสียหายใดๆ หรืออาจมีการเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แบบนี้ก็สบายใจได้เลย ในส่วนนี้เราจะได้ส่วนลดสำหรับการต่อประกันรถยนต์ในปีต่อ ไป คิดเป็นอัตราดังนี้
จำนวนปีที่ไม่มีการเคลมค่าเสียหายส่วนลด*
ปีแรก20%
2 ปีติดต่อกัน30%
3 ปีติดต่อกัน40%
4 ปีติดต่อกันขึ้นไป50%
*คิดจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในปีที่ต่ออายุ
เมื่อคุณขับรถอย่างระมัดระวังและแทบไม่ได้เคลมอะไรแบบติดต่อกันถึง 4 ปี เบี้ยประกันรถยนต์ก็จะยิ่งถูกลง คิดดูสิว่า ถ้าได้ส่วนลดสูงสุดถึง 50% เบี้ยประกันรถยนต์จะถูกขนาดไหน แต่ขอเตือนไว้ด้วยว่า ถ้ากรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีจะลดลงทีละขั้นเลยนะ เช่น ตอนนี้คุณมีส่วนลดประวัติดี 30% แต่ในปีนั้นเกิดอุบัติเหตุและเราเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีก็จะเหลือ 20% นั่นเอง
2.ระบุชื่อผู้ขับขี่
การระบุชื่อผู้ขับขี่เป็นการช่วยคุ้มครองรถของเราและยังช่วยให้เบี้ยประกันถูกลงได้ ซึ่งเราสามารถเลือกระบุชื่อได้ไม่เกิน 2 คน โดยระบุชื่อและอายุของคนขับ พูดง่ายๆ ว่า ช่วงอายุที่เราระบุไว้จะเป็นส่วนที่นำมาพิจารณาลดเบี้ยประกันรถยนต์ของเรา ตามช่วงอายุที่กำหนดไว้ ดังนี้
ช่วงอายุส่วนลดเบี้ย
18 – 24 ปี5%
25 – 35 ปี10%
36 – 50 ปี15%
50 ปีขึ้นไป20%
3.ระบุจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible)
อีกทางเลือกของคนที่ขับรถดีและไม่ค่อยได้เคลมอะไรอยู่แล้ว การเลือกระบุจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ของคุณถูกลง เช่น จากเดิมจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ 13,000 บาท เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆ และสมมติว่าคุณเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท คุณก็จะจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์เพียง 12,000 บาท แต่เท่ากับว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง คุณจะต้องจ่ายเงินอีก 1,000 บาทเอง
4.ส่วนลดกลุ่ม
นี่แหละข้อดีของการมีรถหลายคัน ถ้าที่บ้านคุณมีรถหลายคัน แล้วเอารถคันเก่งของคุณไปทำประกันรถยนต์ตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป ง่ายๆ แค่นี้ก็จะได้รับส่วนลดประกันภัยรถยนต์แบบกลุ่มไปเลย 10%

                                                                                                                                                                                            การสร้างเงินกับแบบสอบถาม คลิก
5.ส่วนลดสำหรับข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
สำหรับข้าราชการประเภทต่างๆ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทในกำกับของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ปตท. อสมท. ไปรษณีย์ หรือการบินไทย จะได้รับสิทธิพิเศษเป็นส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์ 15-50% เลยทีเดียว
6.ส่วนลดในการเลือกซ่อมอู่มาตรฐาน
ปกติในการทำประกันรถยนต์ ทางบริษัทประกันจะให้เราเลือก ซ่อมอู่ หรือซ่อมห้าง(ศูนย์บริการ) ซึ่งทำให้เบี้ยประกันรถยนต์มีส่วนต่างกันอีกเล็กน้อย ในส่วนนี้เราสามารถประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ด้วยการเลือกซ่อมอู่ที่มีมาตรฐานดีที่บริษัทรับรอง ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ถึง 1,000-3,000 บาท เลยทีเดียว
7.ลดทุนประกัน
หากคิดว่าค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่คุณต้องจ่ายมันสูงเกินไปก็สามารถขอลดทุนประกันได้ เพื่อจะได้ลดภาระค่าเบี้ยประกันด้วย แต่นั่นหมายถึงความคุ้มครองก็จะลดลงตามไปด้วยนะ อย่างไรก็ลองพิจารณาดูให้ดีๆ เสียก่อน
8.ลดความคุ้มครอง
ในการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ย่อมได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุครอบคลุมทุกรูปแบบ แต่สำหรับใครที่เห็นว่าตัวเองขับรถปลอดภัย คิดว่าสามารถยอมรับความเสี่ยงบางส่วนเองได้ อาจเลือกลดความคุ้มครองบางอย่างตามความต้องการ เพื่อช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ไปได้ในตัว คราวนี้ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนแล้ว
9. เลือกประกันภัยรถยนต์ที่โดนใจ
ทางที่ดีที่สุดเราควรเลือกประกันภัยรถยนต์ที่สามารถให้ราคาประกันภัยรถยนต์อย่างคุ้มค่าตรงตามความต้องการของเรา จากข้อมูลในตารางเปรียบเทียบ เชื่อได้ว่ายังมีประกันรถยนต์ที่เสนอเบี้ยประกันราคาถูกและดีอยู่ด้วย
ลองดูตัวอย่างจาก


สร้างเงินล้าน กับ การเป็นตัวแทนจำหน่ายคลิก